ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าดีอย่างไร

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นวิธีปรับรูปหน้าที่จะเหมาะสำหรับคนที่กรอบหน้าไม่ชัด สาเหตุก็เกิดขึ้นมาจากปัญหาต่างๆ ไม่ตายตัวเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มมากขึ้น ไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า หรือโครงสร้างใบหน้าไม่ได้สัดส่วนเล็กน้อย อยากปรับหรือเติมเต็มรูปหน้าให้ได้สัดส่วน กรอบหน้าชัด สวยมีมิติมากขึ้น

สำหรับโดยการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า แพทย์จะใช้สารประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) โดยที่จะฉีดสารดังกล่าวเข้าไปในส่วนที่ต้องการจะแก้ไข เพื่อเป็นการเติมเต็มรูปหน้าที่ขาดหายไปให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเพื่อความเป็นธรรมชาติแพทย์จะฉีดปรับทั้งรูปหน้าช่วงล่างทั้งหมด คือ ตั้งแต่แนวขากรรไกร ไปจนถึงบริเวณคาง เพื่อที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ถูกผลิตออกมาให้มีเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับการฉีดปรับกรอบหน้าโดยเฉพาะจากแบรนด์สุดฮิตสัญชาติอเมริกาอย่าง Juvederm Volux อีกด้วย

ฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ?

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ หน้าผาก ที่ถือว่าเป็นวิธีที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งก็คือ การฉีดสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิก Hyaluronic Acid  เข้าไปบริเวณหน้าผาก เพื่อที่จะทำการปรับรูปทรง ของบริเวณที่ต้องการ เพื่อให้ได้สัดส่วนตามต้องการ ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาหน้าผากยุบ บุ๋ม แบน หรือมีริ้วรอยร่องลึกได้เป็นอย่างมาก โดยที่ในปัจจุบันนั้น การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ถือว่าค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นวิธีที่สามารถเติมเต็ม และเสริมหน้าผากให้โหนกนูนได้อย่างรวดเร็ว ที่เห็นผลได้ไว และแถมยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องเจ็บจับ ซึ่งถ้าหากเข้าฉีดฟิลเลอร์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการพักฟื้นอีกด้วย ซึ่งการเติมฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากนั้น ก็มีราคาที่ไม่แพง สามารถเข้าถึงง่าย ที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการเลือกใช้เพื่อให้สามารถปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยเข้ารูปมากขึ้น

แต่ถึงแม้ว่าจะได้ผลมากขนาดไหน แต่ก็ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่า จริง ๆ แล้ว การฉีดฟิลเลอร์ตรงบริเวณหน้าผากนั้น มักจะไม่ใช่จุดแรก ๆ ในการเข้ารับบริการ ที่แพทย์มักจะให้คำแนะนำในฉีดสักเท่าไหร่ เพราะถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะไม่มีราคาที่แพง แต่ตรงบริเวณหน้าผาก มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ฟิลเลอร์ในการฉีดหลาย cc เป็นอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้สามารถเกิดการเปลี่ลงแปลง เพราะเมื่อหากนำเอามาเปรียบเทียบกับการฉีกฟิลเลอร์ในส่วนอื่น ๆ เช่น ใต้ตา หรือร่องแก้ม บริเวณดังกล่าวนั้นจะใช้ cc โดยประมาณแค่ 1 – 2 cc เพียงเท่านั้น ก็จะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน