Machine Learning คืออะไร

สำหรับ Machine Learning หนึ่งในระบบที่อยู่รอบตัวเรา แต่หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกต และไม่รู้จัก ซึ่งมันก็คือ ส่วนการเรียนรู้ของเครื่อง ที่ถูกนำเอามาใช้งานที่เปรียบเสมือนเป็นสมองของ AI (Artificial Intelligence) โดยที่เราอาจจะพูดได้ว่า  AI ใช้ Machine Learning ในการสร้างความฉลาด ที่คนส่วนใหญ่มักจะใช้เรียกโมเดลที่เกิดจากการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์ โดยที่ข้อแตกต่างนั้นก็คือ การที่โปรแกรมดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการเขียนโดยใช้มนุษย์ เพราะโดยปกติแล้วมนุษย์จะมีหน้าที่เขียนโปรแกรมให้ AI (เครื่อง) เพื่อใหเสามารถเรียนรู้จากข้อมูลเท่านั้น แต่ส่วนที่เหลือ เครื่องจะทำหน้าที่จัดการตัวของมันเอง

สำหรับ Machine Learning จะทำการเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ ที่เราส่งเข้าไปกระตุ้น ซึ่งจะเน้นเฉพาะข้อมูลที่ต้องการจริง ๆ โดยที่จะทำงานออกมาในรูปแบบของการจดจำเอาไว้ ที่ถือว่าเป็นมันสมองส่วนหนึ่งในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลข หรือ code ที่จะทำการส่งต่อออกไป เพื่อแสดงผลลัพธ์ต่าง ๆ ที่ต้องการ หรือจะให้เจ้าตัว AI นำไปแสดงการกระทำ Machine Learning เอง ที่ก็สามารถเอาไปใช้งานได้หลายรูปแบบเป็นอย่างมาก ซึ่งหลักการทำงานเหล่านั้นจำเป็นที่จะต้องอาศัยกลไกที่เป็นโปรแกรม หรือเรียกว่า Algorithm ที่มีหลากหลายแบบให้ใช้งานในปัจจุบัน แต่ทั้งหมดจะต้องเกิดขึ้นโดยมี Data Scientist เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งหนึ่งใน Algorithm ที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ที่มีการใช้งานจริง ที่เหตุผลลัพธ์ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ Deep Learning ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถนำเอาไปประยุกต์ให้สามารถใช้งานได้หลายลักษณะงานเป็นอย่างมาก

Machine Learning ที่พบเจอภายในชีวิตประจำวัน

ต้องบอกเลยว่า จริง ๆ แล้ว Machine Learning นั้น ถือว่าเป็นโปรแกรมอีกหนึ่งชนิด ที่อยู่ และพบเจอภายในชีวิตประจำวันของเราอย่างแนบเนียนมาก ๆ โดยที่หลายคนอาจจะไม่รู้ตัว เพราะถ้าหากพูดโปรแกรมต่าง ๆ ออกไป เชื่อได้เว่าเลยทุกคนคงจะ อ๋อ และตกใจอย่างแน่นอน

Apple Siri ที่มี Speech Recognition หรือการฟังเสียงและถอดความ

สำหรับ Machine Learning ตัวนี้ จะทำหน้าที่ให้เกิด NLP (Natural Language Processing) หรือถ้าจะอธิบายง่าย ๆ ให้เข้าใจนั่นก็คือ การประมวลผลตามภาษาธรรมชาติ เพราะโดยปกติแล้ว มนุษย์จะมีการใช้ภาษาที่กำกวมอยู่เสมอ ซึ่งจะแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ เพราะคอมพิวเตอร์จะใช้ภาษาที่มีลักษณะที่ชัดเจน และแน่นอน เพื่อให้เหมาะสมในการสื่อสาร แต่ด้วยในปัจจุบันต้องบอกเลยว่าความเป็นไปของภาษานั้น ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างมาก ซึ่งมักจะมีคำใหม่ หรือรูปแบบประโยคใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเสมอ เพราะฉะนั้นการนำเอาโปรแกรม Machine Learning มาช่วยในปัจจุบัน จึงทำให้ NLP มีความแม่นยำขึ้น ที่จะสามารถทำให้คุณนั้นตามทันโลกได้ไว และเข้าใจง่ายมากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้นำมาใช้ใน Siri นั่นเอง

Face ID ของ Apple  ที่เราสงสัยกันว่าเราเปลี่ยนลุคหรือเมคอัพแล้ว มันยังจะเวิร์คอยู่หรือไม่

อีกหนึ่งโปรแกรมที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ดี ที่เหมาะกับการใช้งานในรูปแบบของ Machine Learning เพราะว่า Apple จะใช้วิธียิงจุดอินฟราเรดออกไป และจะใช้วิธีการตรวจสอบลักษณะรูปแบบของใบหน้า ที่ถึงแม้ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงภายในใบหน้าไปบ้างเล็กน้อง ไม่ว่าจะเป็นการตัด เปลี่ยนทรงผล ใส่แว่น Face ID ก็ยังคงสามารถที่จะทำการตรวจสอบได้อย่างแม่นยำเสมอ ที่ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานจะใช้หน้ากากเพื่อทำการปกปิดใบหน้า ก็ไม่รอด Face ID อยู่ดี เพราะว่า Apple ใช้ Machine Learning ที่เป็นรูปแบบการเรียนรู้ ที่ได้ประสิทธิภาพ โดยภายในโปรแกรมนั้นมีรูปแบบหน้าที่แตกต่างกันมาเยอะมาก และสร้างโมเดลให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นมาจาก Machine Learning ซึ่งทั้งหมด ก็เกิดขึ้นมาภายในชีวิตประจำวัน ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป ทีนี้พอเราเริ่มมีประสบการณ์ในการใช้งานโดยตรงแล้ว เห็นได้ว่ามันจะถูกพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะกับรูปแบบการใช้งานตามแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่มีการใช้งานผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ นั้น ก็มักจะมีรูปแบบใหม่ ๆ มาให้ได้ใช้กันอยู่เรื่อย ๆ เรียกได้ว่า ตัวระบบจะมีการอัพเดทอยู่ตลอด เพื่อให้ถูกมือถูกใจของเรามากขึ้น