การดูแลสภาพรถให้ใช้งานได้ดีอยู่เสมอนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ระบบเกียร์รถยนต์ก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญที่สามารถให้รถนั้นขับเคลื่อนไปได้ ดังนั้นการถนอมเกียร์รถให้ใช้งานได้นานๆก็เป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเกียร์รถยนต์นั้นจะมีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ แต่บทความนี้จะมากล่าวถึงในส่วนของวิธีถนอมเกียร์ออโต้ว่าจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้เกียร์ออโต้นั้นมีการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
วิธีถนอมเกียร์ออโต้ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานมากขึ้น มีวิธีดังนี้
ขณะรถวิ่งไม่ควรปล่อยเกียร์ว่าง
เมื่อรถมีการวิ่งอยู่นั้น ไม่ควรที่จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่างแล้วให้รถไหลไป เพราะหากเข้าเกียร์ N ในขณะที่รถกำลังวิ่ง จะทำให้น้ำมันหล่อลื่นภายในห้องเกียร์หยุดการไหลเวียนในขณะที่เกียร์นั้นมีการหมุนอยู่ ทำให้เกิดความร้อนสูง น้ำมันเกียร์ก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลทำให้ระบบเกียร์เกิดความเสียหายได้
ให้เหยียบเบรกก่อนการเปลี่ยนเกียร์
ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนเกียร์รถ จะต้องมีการเหยียบเบรกรถก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระชากของระบบส่งกำลัง ซึ่งจะเป็นการถนอมชุดเฟืองเกียร์ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วด้วย หากทำการเหยียบเบรกไว้ก่อนเปลี่ยนเกียร์รถ ก็จะทำให้ระบบส่งกำลังทำงานได้อย่างเต็มที่และมีความลื่นไหลในการทำงาน
ถ้าไม่จำเป็น อย่าคิกดาวน์
การคิกดาวน์ เป็นการเหยียบคันเร่งที่ลึกมากกว่าปกติ เพื่อเป็นการเพิ่มความเร็วรถหรือขับรถเร่งแซง หากมีการคิกดาวน์อยู่บ่อยๆ ก็จะทำให้ชุดเกียร์มีการสึกหรอเร็วขึ้น ทำให้ชุดเกียร์รับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นก็อย่าคิกดาวน์ และขับรถแบบค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นไปก็จะเป็นการถนอมเกียร์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
ไม่ขับรถลากเกียร์
หากกำลังขับรถเพิ่มความเร็ว แต่ตำแหน่งในการเข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง ซึ่งก็คือการขับรถแบบลากเกียร์นั่นเอง หากทำแบบนี้เครื่องยนต์ก็จะทำงานหนัก ทำให้ชุดเกียร์มีการสึกหรอเร็ว การเสื่อมสภาพของน้ำมันเกียร์ก็จะเร็วขึ้น และส่งผลทำให้รถเปลืองน้ำมันด้วย
หากจอดรถบนทางลาดชันควรใช้เบรกมือช่วย
สำหรับการจอดรถยนต์ไว้บนทางลาดชันนั้น ควรที่จะใช้เบรกมือควบคู่กับการใช้เกียร์ P ด้วย นอกจากจะเป็นการช่วยไม่ให้รถไหลแล้ว ยังเป็นการถนอมสลักเกียร์ไม่ให้รับน้ำหนักของรถมากเกินไป
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์
โดยทั่วไปแล้วน้ำมันเกียร์ควรที่จะเปลี่ยนทุกๆ 40,000 กิโลเมตร เนื่องจากหากใช้ไปนานๆน้ำมันเกียร์ก็จะเสื่อมสภาพ มีเศษตะกอนต่างๆ เศษสิ่งสกปรก ฝุ่นผง ตกค้างในน้ำมันเกียร์ และความหนืดของน้ำมันเกียร์อาจเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการกระตุก หรือเข้าเกียร์ผิดจังหวะได้
ควรที่จะหมั่นตรวจสอบความผิดปกติของเกียร์รถอยู่เสมอ หากพบว่าระบบเกียร์มีความผิดปกติเกิดขึ้น ใช้งานเกียร์ได้ไม่ลื่นไหลดังเดิม ควรตรวจเช็คหาสาเหตุและทำการแก้ไข เพื่อให้การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
