อาการไอแบบมีเสมหะ กลายเป็นอาการที่หลายๆคนมักซื้อยามาทานเอง บ้างก็ซื้อยาละลายเสมหะ บ้างก็ซื้อยาขับเสมหะ ทำให้อาการไอเรื้อรั้ง เป็นๆหายๆ เพราะความไม่เข้าใจถึงความแตกต่างของยา2ชนิดนี้ ว่าควรเลือกซื้อตัวไหน และมีความแตกต่างกันอย่างไร
ยาละลายเสมหะ (Mucolytics)
ยาละลายเสมหะ คือ ยาที่มีฤทธิ์ต่อเสมหะโดยตรง ในการทำลายการเกาะกันของโปรตีนในมูก ทำให้เสมหะข้นเหนียวน้อยลง โดยอาจจะย่อยโปรตีน หรือเพียงแค่ทำลายคุณสมบัติทางเคมีก็ได้ เมื่อเสมหะเหนียวน้อยลง เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการไอแบบมีเสมหะทำให้สามารถไอเอาเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น
การออกฤทธิ์
ตัวยามีการออกฤทธิ์โดยตรงต่อเสมหะ โดยทำให้เสมหะมีความเหนียวน้อยลง
ตัวอย่างยาที่วางจำหน่าย
- Acetyl cysteine ซึ่งพบว่ามีประโยชน์ในคนไข้โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง(โรคซีโอพีดี/COPD)
- Carbocysteine เป็นยาในกลุ่มเดียวกันกับ Acetyl cysteine คือ ออกฤทธิ์เหมือนกัน
- Bromhexine
- Ambroxol
ยาขับเสมหะ (Expectorants)
ยาขับเสมหะ คือ ยาขับเสมหะในปอด มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้เยื่อบุในระบบทางเดินหายใจกำจัดเสมหะและเพิ่มปริมาณสารคัดหลั่งในระบบทางเดินหายใจมากขึ้น เป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้มูก ทำให้ผู้ป่วยไอเอาเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น หายใจสะดวกมากยิ่งขึ้น ป้องกันไม่ให้สมหะลงปอด มักจะนำยาชนิดนี้มาใช้ในการรักษาภาวะเสมหะคั่ง เนื่องจากโรคหวัด ภาวะติดเชื้อ หรือโรคภูมิแพ้ ไปจนถึงการนำมารักษาโรคอื่นๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
การออกฤทธิ์
ตัวยาทำให้ระบบทางเดินหายใจหลั่งของเหลวมากขึ้น ทำให้เสมหะมีความเหนียวลดลงแต่มีมวลมากขึ้น ส่งผลให้สามารถขับเสมหะได้ง่ายขึ้น หรือพูดง่าย ๆ คือเพิ่มน้ำให้กับเสมหะนั้นเอง
ตัวอย่างยาที่วางจำหน่าย
- Guaifenesins (Glycerol guaicolate) ซึ่งเป็นส่วนผสมโดยทั่วไปของยาบรรเทาอาการหวัดในท้องตลาด
- Terpin hydrate
- Ammonium chloride และ
- ชะเอมเทศ, มะขามป้อม, มะแว้ง เป็นต้น
ยาละลายเสมหะ กับ ยาขับเสมหะ ควรเลือกกินแบบไหน ให้เหมาะกับอาการไอ
ในกรณีที่คุณไม่ได้มีเสมหะเหนียวข้น มีอาการไอและมีเสมหะ แนะนำให้ใช้ยาแก้ไอขับเสมหะ แต่ถ้ามีเสมหะเหนียวข้นไม่สามารถขับเสมหะออกมาได้ง่าย ทำให้มีอาการไอ หายใจไม่สะดวก และรู้สึกจุกคออยู่ตลอดเวลา แนะนำให้ใช้ยาแก้ไอละลายเสมหะแทน หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ยาทุกครั้ง
ตอนนี้เราก็เข้าใจความแตกต่างระหว่างยาละลายเสมหะกับยาขับเสมหะ เวลาเลือกซื้อก็ควรเลือกให้เหมาะกับอาการไอที่เป็นอยู่ จะได้เป็นการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม อย่างก็ตามหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรจะดีที่สุด หายเร็วและไม่เสี่ยงอีกด้วย